“ตอนนี้กำลังสร้างบ้านพักชั่วคราวทำอยู่ เพื่อรื้อถอนบ้านหลังเดิมของชาวบ้าน หลังจากนั้นจะถมดิน พัฒนาระบบสาธารณูปโภค ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 เดือน ต่อจากนั้นก็จะตอกเสาเข็ม ซึ่งจะเริ่มสร้างศูนย์ชุมชนก่อน ในเดือนสิงหาคมนี้ และพื้นที่ว่างส่วนกลางอีกราวครึ่งหนึ่งของชุมชนจะพัฒนาเป็นพื้นที่รีซีไซเคิลขยะชุมชน เพื่อให้เป็นอาชีพที่มั่นคงของชุมชนต่อไป”
“วันหนึ่งๆ จะมีขยะจากครึ่งเมืองราว 3 พันกว่าตันมาทิ้ง ชาวบ้านแถวนั้นเก็บขยะมารีไซเคิลได้วันละ 200 ตัน ชาวบ้านมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 4 พัน/คน”
นี่คือวิถีชีวิตประจำวันของชาวชุมชนกองขยะหนองแขม ริมถนนพุทธมณฑลสาย 3 ที่ชีวิตผูกติดอยู่กับกองขยะขนาดใหญ่ กองขยะที่นี่เป็นทั้งที่อยู่และที่ทำกิน จึงเกิดเป็นชุมชนที่รองรับผู้คนจากทั่วสารทิศ มาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน
นายบรรจง แซ่อึ้ง ประธานคณะกรรมการโครงการบ้านมั่นคงชุมชนกองขยะหนองแขม เล่าให้ฟังว่า ชุมชนกองขยะหนองแขมอยู่ในที่ดินของมูลนิธิเกษตราธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และที่ดินของเอกชนบนเนื้อที่ 16 ไร่ ซึ่งเดิมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดสรรที่ดินดังกล่าวให้เป็นที่พักของข้าราชการในกระทรวง แต่ไม่มีใครไปอยู่ เพราะอยู่ใกล้กองขยะ ชาวบ้านที่เข้าไปขุดคุ้ยขยะ จึงเข้าไปอยู่อาศัย เอาไม้ทำเป็นบ้าน มุงหลังคาด้วยสังกะสี สภาพชุมชนมีน้ำท่วมขัง กลายเป็นชุมชนแออัด สำนักงานเขตหนองแขมได้เข้าไปสำรวจตั้งแต่ปี 2533 แต่ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนา เพราะเป็นที่ดินบุกรุก
“เริ่มแรกที่ดินบริเวณนี้เป็นที่ดินวางเปล่า ทางกรุงเทพมหานครจึงได้นำขยะมากองทิ้งพักก่อนที่จะนำไปทิ้งที่อำเภอกำแพงแสน จ.นครปฐม เพราะมีขยะอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านที่ส่วนใหญ่อพยพมาจากภาคอีสาน กองขยะดินแดง และคนในพื้นที่ดั้งเดิม มาตั้งบ้านเรือนอยู่รอบลานขยะ เพราะสะดวกต่อการหาสิ่งของที่พอจะไปเลี้ยงชีพ” นายบรรจง กล่าวและว่า
ชุมชนกองขยะหนองแขมเป็นชุมชนที่มีขบวนการรีไซเคิลขยะและวัสดุต่างๆ โดยการเก็บ คัดแยก ตัด โม่ ซักล้าง ซึ่งแต่ละเดือนจะมีปริมาณ 1,000 ตัน เช่น พีวีซี เสื่อน้ำมัน ขวดแก้ว สายยาง พลาสติกต่างๆ มีการส่งขายทั่วทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก (โดยเฉพาะที่มาบตาพุด) และภาคเหนือ กิจการนี้สามารถเลี้ยงคนได้ทั้งชุมชน สร้างรายได้ให้ชาวบ้านวันละ 500 บาท/ต่อ
ในปี 2538 ชุมชนมีปัญหายาเสพติดรุนแรง มีคนขายและติดยาเสพติดครึ่งชุมชน มีผู้ที่ถูกจับกุมถึง 40 คน จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการขจัดปัญหา ทำให้ปัจจุบันปัญหายาเสพติดลดความรุนแรงไปมาก จนเป็นชุมชนตัวอย่างของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ที่สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้โดยไม่ใช้ความรุนแรง
เราพบว่า สาเหตุที่คนติดยาเสพติดง่าย เพราะในชุมชนของเราไม่มีความมั่นคง มีการย้ายเข้าย้ายออกอยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีข้อมูลผู้อยู่อาศัยที่ชัดเจน ผู้นำชุมชนไม่รู้จักลูกบ้าน จึงทำให้คนทำผิดได้ง่าย เราจึงใช้วิธีการเอ็กซเรย์ชุมชน โดยการสำรวจข้อมูลชุมชน เก็บหลักฐานสมาชิกชุมชน กรรมการไปเยี่ยมเยียนสมาชิกเป็นประจำ ทำให้รู้จักกันมากขึ้น ขณะที่ผู้ที่พ้นโทษมาแล้ว ก็จะมีการจัดกลุ่มผู้พ้นโทษ ให้ติดต่อกับกรรมการชุมชนตลอดเวลา มีกิจกรรมบ้านหลังที่สอง ซึ่งพาเยาวชนไปเข้าค่าย กิจกรรมพาลูกแม่ไปเยี่ยมผู้ต้องหาคดียาเสพติด มีลานกีฬา ลานดนตรี โครงการตำรวจจิ๋ว กิจกรรมเดินป่า ทัศนศึกษา รวมถึงการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ วิทยาลัยแสงธรรมวิทยาลัยเทคโนโลยีธนบุรี โรงเรียนวีรสุนทรบริหารธุรกิจ สถานีตำรวจหนองแขม คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ ทำให้ปัญหาดังกล่าวลดลงไปมาก
จากการที่ชุมชนกองขยะหนองแขมเป็นชุมชนที่บุกรุกที่ดินของมูลนิธิเกษตรศึกษาธิการ และที่ดินของเอกชนจึงทำให้มีปัญหาการไล่รื้อ โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ด้านหน้าชุมชน ในปี 2546 แกนนำชุมชนจึงได้ร่วมกันออมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยขึ้น เพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง จนปัจจุบันได้มีการเสนอขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินของเอกชน และขอเช่าที่ดินจากมูลนิธิเกษตราธิการ โดยมีมูลนิธิคุณพุ่ม เจนเซ่นให้การสนับสนุน ช่วยชุมชนเจรจาการเช่าที่ดินให้กับชาวบ้าน จนสามารถเช่าระยะยาว 30 ปี
“ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2548 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานกรรมการมูลนิธิ ได้เสด็จทรงงานที่ชุมชนกองขยะหนองแขม ทรงทอดพระเนตสภาพความเป็นอยู่ของชุมชน และแผนการดำเนินงานโครงการบ้านมั่นคง ทูลกระหม่อมหญิงฯ จึงได้ประทานความช่วยเหลือแก่ชุมชน หลายด้าน เช่น ตั้งกองทุนเพื่อการศึกษา แก่เด็กด้อยโอกาสในชุมชน โครงการพัฒนาอาชีพรีไซเคิล และโครงการบ้านร่มเย็นคุณพุ่ม ในพระอุปถัมภ์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี โดยการสร้างศูนย์กิจกรรมของเยาวชน ในอ.นครชัยศรี จ.นครปฐมขึ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด ทำให้ชุมชนมีความกระตือรือร้น มั่นใจในการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างมาก” ประธานชุมชนกองขยะหนองแขม กล่าว
นายบรรจง กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการบ้านมั่นคงของชุมชนกองขยะหนองแขมว่า ในชุมชนมีสมาชิก 176 หลังคาเรือน เข้าร่วมโครงการ 166 หลังคาเรือน ตั้งคณะกรรมการโครงการ 13 คน แบ่งงานออกเป็นทีม ประกอบด้วย ทีมสังคม ทีมบริหารจัดการชุมชน รับผิดชอบบัญชี การเงิน จัดซื้อจัดจ้าง ทีมสาธารณูปโภค และทีมข้อมูล โดยแบ่งสมาชิกในชุมชนเป็นกลุ่มย่อย 17 กลุ่ม ดูแลกันภายในกลุ่มตนเอง เริ่มออมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เดือนละ 500 บาท ปัจจุบันมีเงินออมทรัพย์ 1.8 ล้านบาท ซึ่งได้ตั้งเป็นสหกรณ์เคหสถานชุมชนองขยะหนองแขม จำกัด เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา มีการศึกษาดูงานที่ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ ชุมชนบ่อนไก่ เป็นต้น ทำให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจในโครงการมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็มีการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนอีกครั้ง เพื่อนำไปสู่การจัดสิทธิ์การอยู่อาศัยให้ได้รับสิทธิ์ที่เหมาะสมและเป็นธรรม ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ คือ ที่ดินของมูลนิธิเกษตราธิการ จำนวน 4 ไร่เศษ ที่ดินซื้อจากเอกชน ซึ่งได้ขอสินเชื่อจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) จำนวน 2.5 ไร่ และที่ดินสาธารณะเดิมอีก 2 ไร่
ส่วนกระบวนการออกแบบผังชุมชนและแปลนบ้านนั้น ประธานชุมชน กล่าวว่า ชาวบ้านได้ร่วมกันออกแบบบเอง โดยมีสถาปนิกจากมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ให้ความช่วยเหลือโดยแปลนบ้านแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบทาวน์เฮ้าส์ คสล. 2 ชั้น ขนาด 4x9 เมตร 135 หลัง ราคา 170,000 บาท ราคาผ่อนเดือนละ 1,210 บาท และแบบบ้านทาวน์เฮ้าส์ คสล.ชั้นเดียว 4x9 เมตร 20 หลังๆ ละ 85,000 ราคาผ่อนเดือนละ 712 บาท และสร้างเผื่อสำหรับชาวบ้านที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการอีก 10 กว่าหลัง
“ตอนนี้กำลังสร้างบ้านพักชั่วคราวทำอยู่ เพื่อรื้อถอนบ้านหลังเดิมของชาวบ้าน หลังจากนั้นจะถมดิน พัฒนาระบบสาธารณูปโภค ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 เดือน ต่อจากนั้นก็จะตอกเสาเข็ม ซึ่งจะเริ่มสร้างศูนย์ชุมชนก่อน ในเดือนสิงหาคมนี้ และพื้นที่ว่างส่วนกลางอีกราวครึ่งหนึ่งของชุมชนจะพัฒนาเป็นพื้นที่รีซีไซเคิลขยะชุมชน เพื่อให้เป็นอาชีพที่มั่นคงของชุมชนต่อไป” ประธานชุมชน กล่าว





