เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 ณ ห้องหลังสวน โรงแรมชุมพรแกรนด์พาเลซ ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง 14 จังหวัดภาคใต้ เครือข่ายประชาสังคมและภาคีงานพัฒนาทั่วภูมิภาครวม 200 คน เข้าร่วมเวที “สมัชชาพัฒนาการเมืองภูมิภาค ภาคใต้ 14 จังหวัด” เพื่อร่วมประกาศแถลงการณ์ขับเคลื่อนสภาพลเมืองภาคใต้ให้เกิดเป็นรูปธรรมให้สอดรับการสถานการณ์ในปัจจุบัน และร่วมกันออกแบบแนวทางของการจัดตั้งสภาพลเมือง โดยเนื้อหาที่ได้จะมาจากแต่ละกลุ่มจังหวัดมาร่วมแลกเปลี่ยนนำเสนอ ทั้งโครงสร้าง บทบาทภารกิจว่าควรมีหน้าตาอย่างไร ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานสภาพัฒนาการเมือง
นายธวัฒน์ คล้ายรุ่ง สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง จ.ชุมพร ได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณคณะมโนราห์จากอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ศิลปะพื้นบ้านของคนใต้มาร่วมขับขานเนื้อร้องที่ร้อยเรียงสื่อถึงภารกิจของสพม.14 จังหวัดภาคใต้ พร้อมกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานสมัชชาครั้งนี้ จากนั้น นายชำนาญ พึ่งถิ่น ประธานคณะทำงานโครงการ สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง จ.พังงา เป็นประธานกล่าวเปิดงานพร้อมทั้งฉายภาพสภาพลเมืองนั้นจะต้องเกิดขึ้น 14 จังหวัดภาคใต้ อาจแตกต่างไปตามบริบทของพื้นที่ต่างๆ ตามเจตนารมณ์ของปฏิญญาจอมเทียน ตาม 3 ข้อต่อไปนี้ 1.สมัชชาพัฒนาการเมือง จะสนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดสภาพลเมืองระดับจังหวัดเพื่อเป็นสภาของการปรึกษาหารือในพื้นที่ 2.สมัชชาพัฒนาการเมือง จะมุ่งมั่นพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองอย่างจริงจัง มีความต่อเนื่องและยั่งยืนเพื่อเป้าหมายในการพัฒนาการเมืองระดับประเทศให้มีคุณภาพ มีธรรมาภิบาลที่จะนำไปสู่การบริหารจัดการบ้านเมืองให้เกิดสังคมสมานฉันท์ที่สงบสุข 3.สมัชชาพัฒนาการเมือง จะผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศไทยโดยการปฏิรูปโครงสร้างระบบบริหารราชการแผ่นดินที่มุ่งสู่การเป็นท้องถิ่นหรือจังหวัดจัดการตนเองเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และประชาชนมีอำนาจในการปกครองตนเองอย่างแท้จริง
4พื้นที่รูปธรรม 3 กลยุทธ์
จังหวัดที่ได้รับงบประมาณจากสภาพัฒนาการเมือง ภายใต้โครงการจังหวัดต้นแบบพื้นที่รูปธรรม 4 จังหวัด 3 กลยุทธ์ ได้ออกมานำเสนอผลงานเพื่อแลกเปลี่ยนในเวที ดังนี้ นางสาวลิวรรณ ศรีสุทยะคุณ คณะทำงาน คปจ. นำเสนอโครงการกลยุทธ์จังหวัดจัดการตนเอง ว่า “ชุมพรเน้นการประสานภาคีพัฒนาจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ภายใต้เวทีชื่อว่าสร้างสำนึกพลเมือง สู่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง และสมัชชาสวัสดิการชุมชนจังหวัดชุมพร และร่วมกันประกาศปฏิญญาระดับจังหวัดจาก 5 ฝ่าย ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดชุมพร สภาองค์กรชุมชนตำบลจังหวัดชุมพร และสภาพัฒนาการเมืองเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องสภาพลเมืองและสิทธิความเป็นพลเมือง”
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ประธาน คปจ.ระนอง และเป็นตัวแทนภาคธุรกิจเอกชน ได้นำเสนอโครงการกลยุทธ์ประชาธิปไตยชุมชน ว่า “ประเด็นปัญหาของจังหวัดระนอง คือ ปัญหาที่ดินทำกินไม่มีเอกสารสิทธิ์ และปัญหาขยะ ซึ่งเป็นปัญหาระดับจังหวัด แก้ปัญหาเหล่านี้โดยการใช้กระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ภายใต้ 2 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคม ยุทธศาสตร์ที่ 2 เสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมือง เพื่อส่งเสริมให้มีการจัดทำแผนพัฒนาระดับตำบลในระดับจังหวัด นำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสาธารณะ”
นายธรนินท์ แวดอเลาะ นำเสนอจังหวัดยะลาและจังหวัดปัตตานี โครงการกลยุทธ์ทรัพยากรธรรมชาติ ว่า “เป็นกรณีชายแดนใต้ที่มีสภาพบริบทการทำงานที่ค่อนข้างยากลำบาก เพราะความไม่เข้าใจและความอ่อนไหวทางการเมือง การขับเคลื่อนสภาพลเมืองจึงค่อนข้างยากและไม่เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ จึงได้ลองจากจุดเล็กๆ ของโครงการ คือ การจัดการลุ่มน้ำกาลอ (เป็นสายน้ำเล็กๆ ที่ไหลปกมาคลุมเป็นป่าชุมชนในพื้นที่ 9 ตำบลของยะลา และอีก 4 ตำบลของปัตตานี) โดยการใช้ลุ่มน้ำเป็นเครื่องมือในการประสานความร่วมมือให้เกิดในพื้นที่ เพราะพื้นที่กลุ่มเป้าหมายมีความหลากหลายในการนับถือศาสนา จากจุดเล็กๆ นี้จึงได้โครงการพื้นที่รูปธรรมขึ้น และได้เริ่มทำที่จังหวัดยะลาเป็น “ยะลาแห่งความอบอุ่น” และสำหรับจังหวัดปัตตานี นายเจะปอ สะแม ได้เสริมว่า “สมัยก่อนในมัสยิดจะมีกลอง กลองถือเป็นการตีบอกเวลา บอกสัญลักษณ์เพื่อบอกเวลาว่าเป็นเวลาอะไร พื้นที่ที่เราอาศัยเป็นมรดกจากคนสมัยก่อน ปัจจุบันมีความรู้มากขึ้น ทันสมัยมากขึ้น การพัฒนาต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จึงอยากให้แนวทางพัฒนาของสภาพลเมืองได้คำนึงถึงความสามัคคีในชุมชนเป็นสำคัญ เพราะความสามัคคีนั้น อาจแทบไม่ต้องใช้ระเบียบข้อบังคับกฎหมายใดๆมาควบคุมเลยก็ได้ ในฐานะพื้นที่ต้นแบบโครงการกลยุทธ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงใช้ความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนเป็นเครื่องมือขับเคลื่อน สร้างความสามัคคี ลดความแตกแยก เหลื่อมล้ำในชายแดนใต้”
จากนั้นเปิดวงเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงการแนวทางการขับเคลื่อนของสภาพลเมืองภาคใต้และข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปประเทศ โดยมีตัวแทนเข้าร่วมดังนี้ ร.ต.สุภาพร ปราบราย ประธานกลุ่ม คปก.จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย นายรวี บ่อหนา ประธานกลุ่ม คปก.จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และนายอับดุลรอซัก เหมหวัง ประธานกลุ่ม คปก.จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดำเนินรายการโดย จิราภรณ์ หนูรักษ์ นักสื่อสารมวลชนชำนาญการพิเศษ ความตอนหนึ่ง “อยากเสนอให้บรรจุในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือ อำนาจขาที่ 4 สภาพลเมือง ที่เป็นอำนาจสิทธิขั้นพื้นที่ของพลเมือง ตราบใดถ้าขาดกระบวนการการรับฟังจากรากฐานประชาชน ไม่เพียงแค่ 3 จังหวัดภาคใต้จะไม่มีแผ่นดินอยู่ แต่อาจเป็นทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่เช่นกัน เพราะอำนาจก็ยังอยู่ที่นักการเมืองนายทุนครอบครองอยู่ดี และเราจะได้รับเพียงผลกระทบ เราต้องทำตัวเป็นมือบน ไม่ใช่ทำตัวเป็นมือล่าง ความเป็นสภาพลเมืองจะต้องเกิดขึ้นอย่างแท้จริงภายใต้บริบทคนใต้” นายอับดุลรอซัก เหมหวัง กล่าวทิ้งท้าย
ถึงไฮไลต์สำคัญ ก็คือสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองภาคใต้นำโดย นายชำนาญ พึ่งถิ่น ตัวแทนสพม.ระดับภูมิภาค และร้อยตรี สุภาพ ปราบราย ประธานกลุ่มจังหวัดฝั่งอ่าวไทย ร่วมกันอ่านแถลงการณ์สมัชชาพัฒนาการเมืองภาคใต้ ดังนี้
สืบเนื่องจากปฏิญญาสมัชชาพัฒนาการเมือง หรือ “ปฏิญญาจอมเทียน” ในโอกาสวันสถาปนาสภาพัฒนาการเมืองครบรอบ 6 ปี เมื่อเดือนมกราคม 2557 ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี โดยมีสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองและเครือข่ายประชาสังคมแต่ละจังหวัดร่วม 400 คน ได้ประกาศปฏิญญาสมัชชาการเมืองโดยการสนับสนุนของสภาพัฒนาการเมือง ว่า
1.สมัชชาพัฒนาการเมือง จะสนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดสภาพลเมืองระดับจังหวัดเพื่อเป็นสภาของการปรึกษาหารือในพื้นที่
2.สมัชชาพัฒนาการเมือง จะมุ่งมั่นพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองอย่างจริงจัง มีความต่อเนื่องและยั่งยืนเพื่อเป้าหมายในการพัฒนาการเมืองระดับประเทศให้มีคุณภาพ มีธรรมาภิบาลที่จะนำไปสู่การบริหารจัดการบ้านเมืองให้เกิดสังคมสมานฉันท์ที่สงบสุข
3.สมัชชาพัฒนาการเมือง จะผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศไทยโดยการปฏิรูปโครงสร้างระบบบริหารราชการแผ่นดินที่มุ่งสู่การเป็นท้องถิ่นหรือจังหวัดจัดการตนเองเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และประชาชนมีอำนาจในการปกครองตนเองอย่างแท้จริง
บัดนี้ ข้าพเจ้า นายชำนาญ พึ่งถิ่น ตัวแทนสพม.ระดับภูมิภาค และร้อยตรี สุภาพ ปราบราย ประธานกลุ่มจังหวัดฝั่งอ่าวไทย พร้อมสมาชิกพัฒนาการเมืองและเครือข่ายประชาสังคมตลอดจนภาคีพัฒนาทุกภาคส่วนใน 14 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย 4 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง 5 จังหวัดฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 120 คน ขอสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดสภาพลเมืองอย่างเป็นรูปธรรม ขออ่านแถลงการณ์จากข้อสรุปของเวทีสมัชชาพัฒนาการเมือง เรื่องสนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดสภาพลเมืองทุกระดับอย่างเป็นรูปธรรม และข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งจะนำมาเสนอต่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ดังกล่าว จึงร่วมกันประกาศแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการ 2 ด้าน รวม 6 ข้อ ดังนี้
ด้านการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดสภาพลเมือง มีแนวทางการดำเนินงานดังนี้
ข้อ 1 ขับเคลื่อนงานสภาพลเมือง เป็น 5 ระดับ คือระดับตำบล ระดับจังหวัด ระดับกลุ่มจังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ โดยใช้หลักขึ้นรูปสภาพลเมืองระดับตำบล เป็นตัวตั้ง
ข้อ 2 ให้สภาพลเมือง เป็นเวทีกลางเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่ม อาชีพ ไม่เน้นการจำกัดจำนวนคน เน้นความหลากหลายของทุกกลุ่มคน ทุกกลุ่มอาชีพ เสนอปัญหาและแนวทางแก้ไข โดยเน้นประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ โดยใช้ข้อมูล เหตุผล องค์ความรู้ และทุนภูมิปัญญาอย่างรอบด้าน ประกอบการตัดสินใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ให้ยึดถือบริบท วิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น และการจัดการตนเองเป็นหลักการสำคัญ
ข้อ 3 สภาพัฒนาการเมือง เป็นแกนหลักในการประสานเชื่อมโยงกลุ่มองค์กร กลุ่มคน /บุคคล กลุ่มอาชีพและทุกๆ กลุ่มองค์กรในชุมชน ขับเคลื่อนให้เกิดสภาพัฒนาการเมืองให้เป็นรูปธรรมทุกจังหวัด โดยให้สภาพัฒนาการเมือง สนับสนุน แผนงาน/คู่มือ/การสร้างความรู้ความเข้าใจให้สมาชิกพัฒนาการเมืองให้เข้าใจตรงกัน รวมทั้งผลักดันงบประมาณขับเคลื่อนสภาพัฒนาการเมืองให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และขยายผลไปเป็นสภาคู่ขนานกับสภาผู้แทนราษฎร มีบทบาทภารกิจสำคัญ คือ นำเสนอปัญหา แนวทางแก้ปัญหา เน้นแผนยุทธศาสตร์ภาคประชาชนให้กับรัฐบาล เพื่อบรรลุถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายแห่งรัฐ
ด้านข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศซึ่งนำมาเสนอต่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ มีแนวทางการดำเนินการดังนี้
ข้อ 4 ยกสถานะของสภาพัฒนาการเมือง ให้เป็นองค์กรอิสระมีงบประมาณและระบบบริหารการจัดการของตัวเอง ตามเจตนารมณ์ของ พรบ.สภาพัฒนาการเมือง โดยให้รัฐสภาเป็นหน่วยสนับสนุนสภาพัฒนาการเมือง
ข้อ 5 ให้ สภาพลเมือง บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยกำหนด บทบาท ภารกิจ อำนาจ หน้าที่ และการบริหารจัดการ รวมทั้งงบประมาณอย่างชัดเจน
ข้อ 6 การสร้างความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างชุมชนกับภาครัฐ โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเชิงอำนาจ เน้นการเพิ่มอำนาจให้กับชุมชน ลดอำนาจรัฐและประกาศนโยบายขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง
จึงร่วมกันแถลงข้อเสนอจากข้อสรุปในเวที “สมัชชาพัฒนาการเมือง ภาคใต้ 14 จังหวัด เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอร่วมกับภูมิภาคอื่นอีก 4 ภูมิภาค ในเวทีสมัชชาสภาพัฒนาการเมืองระดับชาติ ซึ่งมีกำหนดจัดงานวันสถาปนาในวันที่ 30-31 มกราคม 2558 ณ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เพื่อมอบให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป




