วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 เครือข่ายสวัสดิการชุมชนจ.พัทลุง ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุงและหน่วยงานภาคีในจังหวัด ร่วมจัดงาน "สมัชชาสวัสดิการชุมชน คนเมืองลุง ไม่ทอดทิ้งกัน” ครั้งที่ 4 ประจำปี 2559 โดยมีดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเปิดงาน และผู้ร่วมงานกว่า 1,000 คน จากผู้แทนหน่วยงานในจังหวัด นายอัมพร แก้วหนู ผู้ช่วยผู้อำนวยการพอช. นายแก้ว สังข์ชู นายกสมาคมเครือข่ายสวัสดิการชุมชนจ.พัทลุง ผู้นำกองทุนสวัสดิการชุมชน ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง
นายสนิท จันทรักษ์ ผู้นำสวัสดิการชุมชน จ.พัทลุง กล่าวว่า จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเต็มพื้นที่คือ 73 กองทุน (ตำบล) มีสมาชิกทั้งหมด 91,466 คน จากประชากรทั้งหมดในจังหวัด 520,000 คน มีเงินกองทุนรวม 129.34 ล้านบาท โดยเป็นเงินของสมาชิก 57.63 ล้านบาท เงินสมทบจากรัฐบาลผ่านพอช. 48.86 ล้านบาท ท้องถิ่นสมทบ 5.6 ล้านบาท เงินบริจาค 1.1 ล้านบาท และอื่นๆ 16.09 ล้านบาท มีการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกและชุมชน 21 ประเภท โดยในปี 2559 มีสมาชิกใหม่จำนวน 20,000 คน
ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมการดำเนินงานของเครือข่ายสวัสดิการชุมชน ที่ทำหน้าที่ดูแลสมาชิกและชุมชนด้านสวัสดิการได้อย่างหลากหลาย จึงอยากฝากภารกิจสำคัญในการดูแลคนในครอบครัว คนในชุมชน การสร้างบรรยากาศของความรัก ความสามัคคี ส่งเสริมกิจกรรมดีๆ เพื่อเป็นเกราะป้องกันไม่ให้คนในครอบครัวและชุมชนใช้ความรุนแรงในการดำเนินชีวิต และการอยู่ร่วมกับคนอื่น
ด้านนายอัมพร แก้วหนู ผู้ช่วยผู้อำนวยการพอช. กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของกองทุนสวัสดิการชุมชนพัทลุง ควรไปในทิศทางของการพัฒนาคุณภาพกองทุน ทั้งเรื่องการขยายฐานสมาชิกสู่การพึ่งตนเอง เพราะการเพิ่มสมาชิกคือการเพิ่มจำนวนเงินกองทุน ให้สามารถจัดสวัสดิการได้อย่างหลากหลาย การทำให้ทุกกองทุนมีการบริหารจัดการด้วยระบบธรรมาภิบาล และตนเห็นว่ากองทุนสวัสดิการชุมชนควรมีสถานะเป็นนิติบุคคล ส่วนการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลนั้น พอช.ได้เสนอเรื่องงบประมาณสวัสดิการชุมชน ในปี 2560 ต่อรัฐบาลจำนวน 400 ล้านบาทซึ่งจะต้องผ่านขั้นตอนของสภาว่าจะพิจารณาเห็นชอบตามที่เสนอหรือไม่
การพัฒนาคุณภาพกองทุนนั้น นางอุบล ทองสลับล้วน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ตนอยากเห็นจังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดสวัสดิการสังคม มีการพัฒนาคุณภาพกองทุนจากตัวอย่างของพื้นที่ครู มีการจัดทำฐานข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้พิการ ผู้สูงอายุ คนด้อยโอกาส รวมทั้งการดึงภาคธุรกิจในชุมชนมาร่วมสนับสนุนกองทุนให้มากขึ้น
ด้านนายกฤษฎา สมประสงค์ ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า การสมทบประมาณของท้องถิ่น ที่หลายแห่งยังกล้าๆกลัวๆ กับการสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชนนั้น ในความเป็นจริงมติครม.ปี 2553 ให้ท้องถิ่นสามารถสมทบกองทุนได้ และตนอยากเห็นกองทุนสวัสดิการชุมชนเดินไปข้างหน้า มีความร่วมมือระหว่างเครือข่ายสวัสดิการ กับท้องถิ่นจังหวัด และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด โดยในปี 2561 คาดหวังว่าเราจะมีสมาชิกกองทุนถึง 10 ล้านคน เพราะทุกจังหวัดทุกกองทุนต่างมีแผนในการเพิ่มสมาชิก
ทั้งนี้ในวันเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้มีการมอบเกียรติบัตรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 แห่งที่ได้สนับสนุนกองทุนสวัสดิการชุมชน ผ่านรางวัลคุณค่าแห่งความดี คือเทศบาลตำบลพญาขัน เทศบาลตำบลควนขนุน เทศบาลตำบลโคกม่วง รวมทั้งมีการมอบเกียรติบัตรให้กองทุนสวัสดิการชุมชน 18 กองทุน ที่ผ่านการประเมินคุณภาพในระดับดีมากด้วย
โดยในช่วงสุดท้ายของงานฯ ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ ของเครือข่ายสวัสดิการชุมชนคนพัทลุง ใน 4 ด้านคือ 1.จะพัฒนาความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกองค์กร ร่วมกันเป็นเจ้าของกองทุน 2.การขยายฐานสมาชิกให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ให้ได้ 80% ของประชากรในจังหวัดพัทลุง ภายใน 5 ปี (2559-2563) 3.ขยายรูปแบบการจัดสวัสดิการชุมชนที่หลากหลาย สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของคนพัทลุง 4.ร่วมสร้างสังคมจังหวัดพัทลุงให้เกิดคุณธรรม จริยธรรมในการพัฒนาจังหวัด ที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นในทุกระดับ ให้เกิดการบริหารจัดการแบบธรรมาภิบาล
เขียนโดย อุดมศรี ศิริลักษณาพร