พหลโยธิน 54 เขตสายไหม / 14 หน่วยงานร่วมบูรณาการแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ ตั้งเป้าหมายให้ชุมชนศาลเจ้าพ่อฯ เป็นต้นแบบในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตชุมชนริมคลอง นอกจากเหนือจากการมีบ้านที่มั่นคง เช่น มีการปรับภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ สวนหย่อม สนามเด็กเล่น มีเครื่องออกกำลังกาย บ่อบำบัดน้ำเสีย พิพิธภัณฑ์ชุมชน ฯลฯ ขณะที่ชุมชนเตรียมรองรับการคมนาคมทางเรือเชื่อมรถไฟฟ้า คาดการพัฒนาต่างๆ จะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ และพร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานมอบบ้านใหม่ให้แก่ชาวชุมชนภายในเดือนมีนาคมนี้
วันที่ 7 มกราคม 2560 เวลา 9.00 น. ที่ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ ซอยพหลโยธิน 54 เขตสายไหม กรุงเทพฯ มีการประชุม บูรณาการเพื่อวางแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ โดยมีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรมส่งเสริมสหกรณ์ กองระบบคลอง กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตสายไหม สถานีตำรวจบางเขน สถานีตำรวจสายไหม การไฟฟ้า บริษัทริเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (บ.สร้างเขื่อน) ฯลฯ เข้าร่วมประชุมวางแผนงานประมาณ 50 คน โดยมีนายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุเป็นประธานในการประชุม
นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองและริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (กอร.ชค.) กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เพื่อวางแผนงานการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ จำนวน 14 หน่วยงาน เพื่อให้ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญเป็นต้นแบบในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เพราะนอกจากการสร้างบ้านให้มั่นคงแล้ว การพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นกองอำนวยการร่วมฯ จึงได้เชิญหน่วยงานต่างๆ มาทำงานร่วมกัน เพราะหากทำงานเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานเดียวก็จะไม่ประสบความสำเร็จ โดยจะมีการปรับภูมิทัศน์ชุมชน มีการปลูกต้นไม้ ลอกคลอง บ่อบำบัดน้ำเสีย มีสนามเด็กเล่น สนามเปตอง เครื่องออกกำลังกาย พิพิธภัณฑ์ชุมชน โรงเรียนผู้สูงอายุ ฯลฯ
“คณะทำงานกองอำนวยการร่วมฯ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมกันทำงานที่ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ เพื่อความสำเร็จของประเทศ ถือเป็นผลงานของทุกหน่วยงาน และจะเป็นตัวอย่างในการพัฒนาชุมชนริมคลองที่ครบวงจร เป็นต้นแบบของคนริมคลองและประชาชนทั้งประเทศต่อไป” นายสมคิดกล่าว และบอกว่า แผนบูรณาการร่วมกันครั้งนี้จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว โดยภายในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ กองอำนวยการร่วมฯ จะเชิญพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม.มาติดตามความคืบหน้าต่างๆ เพื่อให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่จะเชิญนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มามอบบ้านให้แก่ชาวชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญภายในเดือนมีนาคมนี้
นายสมชาติ ภาระสุวรรณ รักษาการตำแหน่ง ผอ.พอช. กล่าวว่า การประชุมบูรณาการในครั้งนี้มีการวางแผนการทำงานและมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานมาร่วมกันทำงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ เช่น กระทรวง พม. จะรับผิดชอบดำเนินการเรื่องการจัดสร้างโรงเรียนผู้สูงอายุ สนามเด็กเล่น สนามเปตอง ฯลฯ ธนาคารอาคารสงเคราะห์และกรมธนารักษ์จะสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ เช่น การปลูกต้นไม้ การสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียรวม (2 แห่งๆ ละ 600,000 บาท)
“ส่วน พอช. จะสนับสนุนเรื่องการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ชุมชน ศูนย์ประสานงานชุมชน (ที่ทำการสหกรณ์เคหสถาน) รวมทั้งการบริหารจัดการสหกรณ์และการบริหารจัดการชุมชน นอกจากนี้ผมยังเสนอให้ชุมชนจัดระบบการป้องกันอัคคีไฟด้วย” นายสมชาติกล่าว
พลตรีชนาธิป บุนนาค เสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะที่ปรึกษากองอำนวยการร่วม ฯลฯ กล่าวว่า ตนได้เข้ามาติดตามการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองที่ศาลเจ้าพ่อสมบุญตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้รวมกว่า 10 ครั้งแล้ว และได้เห็นความคืบหน้ามาเป็นลำดับขั้น และนอกจากการบูรณาการแผนงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆแล้ว ต่อไปอาจจะต้องเชิญตัวแทนเจ้าของธุรกิจในพื้นที่มาทำงาน CSR ในชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญด้วย เช่น ตลาดยิ่งเจริญ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ฯลฯ
ป้าสมศรี โพธิ์งาม อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน 2 ชั้น ขนาด 6 X 6 ตารางเมตร กล่าวว่า ตอนนี้บ้านของตนเองอยู่ในระหว่างตกแต่งภายใน เช่น ปูกระเบื้อง ทาสีภายนอกและภายในบ้าน หากเสร็จสมบูรณ์ก็จะย้ายเข้าอยู่ ในช่วงที่สร้างบ้าน 6 เดือนกว่านั้น ต้องไปเช่าบ้านข้างนอกอยู่ โดย พอช.ช่วยสนับสนุนค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท ระยะเวลา 6 เดือน ส่วนชาวบ้านก็เตรียมความพร้อมด้วยการออมทรัพย์เพื่อสร้างบ้านครอบครัวละ 300 บาทต่อเดือน และออมเข้าสหกรณ์เคหสถานเดือนละ 50 บาท ต่อไปจะต้องผ่อนชำระค่าสร้างบ้านเดือนละ 2,600 บาท
“ครอบครัวของป้าอยู่ด้วยกัน 4 คน ป้ามีอาชีพซื้อเช่าพระ มีแผงอยู่หน้าห้างบิ๊กซี บางวันมีรายได้ 500 บาท บางวันก็มากกว่านั้น เมื่อก่อนไม่ต้องจ่ายค่าบ้านเพราะเป็นบ้านที่ปลูกมาตั้งแต่รุ่นพ่อเกือบ 50 ปีแล้ว ทุกเดือนจ่ายแต่ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมแล้วเดือนหนึ่ง 500-600 บาท แต่ตอนนี้ต้องเตรียมเงินเอาไว้ผ่อนส่งบ้านด้วย แต่คิดว่าจะผ่อนส่งไหว เพราะอยากจะมีบ้านใหม่ บ้านเดิมก็เก่าแก่จวนจะพัง อีกอย่างก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกไล่ที่ เพราะได้สัญญาเช่าอย่างถูกต้องแล้ว” ป้าสมศรีกล่าว
นายอวยชัย สุขประเสริฐ ประธานชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ กล่าวว่า ชุมชนมีบ้านเรือนทั้งหมด 64 หลัง และมีบ้านกลาง1 หลังสำหรับชาวบ้านที่ด้อยโอกาส โดยชาวบ้านได้ร่วมกันสมทบเงินครัวเรือนละ 1,000 บาท รวม 64,000 บาท เพื่อเป็นทุนในการสร้างบ้านกลาง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ 1 รายที่ไม่มีญาติพี่น้องคอยดูแล
ส่วนแบบบ้านทั้งหมดมี 2 แบบ คือบ้านชั้นเดียว ขนาด 4x6 ตรม. ราคา 190,000 บาท และบ้าน 2 ชั้น ขนาด 4x6 ตรม.ราคา 330,000 บาท โดย พอช. สนับสนุนสินเชื่อรวม 13.9 ล้านบาท สนับสนุนสาธารณูปโภครวม 3.2 ล้านบาท อุดหนุนการก่อสร้างบ้านรวม 1.6 ล้านบาท และงบช่วยเหลือรวมจำนวน 4.6 ล้านบาท ทั้งนี้ชาวบ้านจะต้องผ่อนชำระสินเชื่อ รวมดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อเดือน ประมาณครัวเรือนละ 1,300-2,800 บาท ระยะเวลา 15 ปี
“ตอนนี้การก่อสร้างบ้านทั้งชุมชนเกือบจะแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือเพียงการตกแต่งและเก็บรายละเอียดภายในบ้าน การเทพื้นถนนและทางเดินในชุมชน การปรับภูมิทัศน์ รวมทั้งการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียรวม เพื่อไม่ให้น้ำทิ้งจากครัวเรือนไหลลงคลอง นอกจากนี้ชาวชุมชนก็จะร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ ไม้ผล ผักสวนครัว รวมทั้งจะมีท่าเรือรองรับการเดินเรือเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าที่กำลังจะก่อสร้างเส้นทางจากคูคตผ่านสะพานใหม่ที่อยู่ใกล้ชุมชนไปยังหมอชิต ทำให้ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญเป็นทำเลที่ดี ซึ่งเรามีแผนงานที่จะทำเรื่องเศรษฐกิจชุมชน เช่น เรื่องข้าวสาร รวมทั้งทำเรื่องท่องเที่ยวชุมชนด้วย เพื่อให้ชาวชุมชนมีรายได้เสริม ไม่เป็นภาระในการผ่อนส่งบ้าน” นายอวยชัยกล่าว
รายงานโดย งานสื่อสารองค์กร พอช.