บ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี/ ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 2 ชุมชน 23 ครัวเรือน ทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อนย้ายเข้าอยู่อาศัยภายในเดือนมีนาคมนี้ ขณะที่ พอช.สนับสนุนสินเชื่อครัวเรือนละ 360,000 บาท รวม 8,200,000 บาท รวมทั้งจะสนับสนุนเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านต่อไป
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2560 ที่สำนักงานบ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีพิธีทำสัญญาจะซื้อจะขายโครงการบ้านประชารัฐ บ้านมั่นคงริมแม่น้ำเจ้าพระยา “สร้างสุข มั่นคง ยั่งยืน” ระหว่างชาวชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและมีความประสงค์ที่จะเข้าอยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี จำนวน 23 ครัวเรือน กับตัวแทนการเคหะแห่งชาติ โดยมีนายนพดล ว่องเวียงจันทร์ รองผู้ว่าการการเคหะฯ นายสมชาติ ภาระสุวรรณ รองผู้อำนวยการ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ตัวแทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตัวแทนกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมพิธีทำสัญญาประมาณ 60 คน
นายนพดล ว่องเวียงจันทร์ รองผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การทำสัญญาจะซื้อจะขายในวันนี้ถือว่าเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน จากเดิมที่ชาวบ้านเคยอยู่ในชุมชนบุกรุกริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่มีความมั่นคงทั้งเรื่องบ้านเรือนและคุณภาพชีวิต แต่ที่บ้านเอื้ออาทรแห่งนี้มีระบบสาธารณูปโภคครบถ้วน มีสนามเด็กเล่น มีสวนหย่อม มีกลุ่มกิจกรรมต่างๆ เช่น กลุ่มเยาวชน กลุ่มผู้สูงอายุ รวมทั้งเรื่องการพัฒนาอาชีพ เมื่อชาวบ้านย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แล้วก็จะสามารถเข้าร่วมกลุ่มต่างๆ ได้
นายสมชาติ ภาระสุวรรณ รักษาการ ผอ.พอช. กล่าวว่า การพัฒนาเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ที่จะทำให้ประชาชนทั่วประเทศประมาณ 2.7 ล้านคนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้การเคหะฯ และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดย พอช.จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยขึ้นมา ซึ่งในส่วนของโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาในวันนี้ พอช.และชาวบ้านได้มีการเตรียมความพร้อมมาก่อน เช่น การลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน การสำรวจสถานที่ที่อยู่อาศัย การรวมกลุ่มกันออมทรัพย์ ฯลฯ
“หลังจากที่พี่น้องมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงแล้ว ก็จะต้องเตรียมความมั่นคงในชีวิตด้วย เช่น การจัดที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม ให้ผู้สูงอายุอาศัยอยู่ชั้นล่าง ให้เพื่อนบ้านเดิมได้อยู่ใกล้กัน เพราะมีความผูกพันเป็นเหมือนญาติ เป็นเหมือนพี่น้องกัน และต่อไปก็จะต้องมีกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันต่อไป” นายสมชาติกล่าว
นายจิรศักดิ์ พูลสง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่อาศัยชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา กล่าวว่า วันนี้มีชาวบ้านจาก 2 ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา คือ ชุมชนราชผาทับทิม และศาลเจ้าแม่ทับทิม เขตดุสิต รวม 23 ครัวเรือน มาทำสัญญาจะซื้อจะขายในวันนี้กับการเคหะฯ ก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายจริงในภายหลัง โดยชาวบ้านจะต้องจ่ายเงินทำสัญญาครัวเรือนละ 1,000 บาท ส่วนราคาห้องพักได้รับการสนับสนุนจากการเคหะฯ โดยลดจากราคาปกติทั่วไป คือ ห้องพักขนาด 33 ตารางเมตร ชั้น 1-2 ราคา 400,000 บาท ชั้น 3-5 ราคา 395,000 บาท จากราคาเดิมตั้งแต่ 411,000- 426,000 บาท
ส่วนการสนับสนุนจาก พอช.นั้น นายจิรศักดิ์กล่าวว่า พอช.จะสนับสนุนสินเชื่อชาวบ้านครัวเรือนละ 360,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 8,200,000 บาท ระยะเวลาผ่อนส่ง 20 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาทต่อปี หรือผ่อนส่งประมาณเดือนละ 2,376 บาท รวม 240 งวด ขณะที่กรุงเทพมหานครกำลังเสนองบประมาณความช่วยเหลือชาวบ้าน เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเร็วนี้ๆ
“หลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือชาวบ้านแล้วก็จะมีการทำสัญญาซื้อขายจริง และคาดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้ ชาวบ้านทั้ง 23 ครัวเรือนจะสามารถย้ายเข้าอยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรแห่งนี้ได้ และต่อไป พอช.ก็จะสนับสนุนชาวบ้านทั้งเรื่องการเดินทาง เช่น อาจจะขอรับการสนับสนุนรถยนต์จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้เป็นรถยนต์ส่วนกลาง สำหรับเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ สนับสนุนเรื่องอาชีพ เช่น ให้สำนักจัดหางานมาออกบูธเพื่อหางานให้แก่ชาวบ้านที่ว่างงาน รวมทั้งจัดสถานที่สำหรับค้าขายภายในโครงการเอื้ออาทรให้แก่ชาวบ้านด้วย” นายจิรศักดิ์กล่าว
นางจิตรลดา ศิลปวิทย์ ชาวชุมชนราชผาทับทิม กล่าวว่า ตนและครอบครัวเคยมาดูห้องพักที่นี่แล้ว รู้สึกพอใจ เพราะเป็นตึกใหม่ สะอาด มีที่พักผ่อน มีต้นไม้ร่มรื่น ส่วนภาระค่าผ่อนส่งห้องพัก รวมทั้งค่าส่วนกลาง ค่าน้ำและไฟฟ้า ประมาณเดือนละ 2,500 บาท คิดว่าผ่อนส่งไหว เพราะมีรายได้จากการรับจ้างเย็บเสื้อผ้าส่งโรงงานประมาณเดือนละ 6,000-7,000 บาท
“อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามานานแล้ว เมื่อรัฐบาลมีโครงการจะพัฒนาพื้นที่ ชาวบ้านก็ไม่ได้ต่อต้าน เพราะมีหน่วยงานต่างๆ มาช่วยเรื่องที่อยู่อาศัย ไม่ได้ปล่อยทิ้ง ปล่อยขว้าง ลำพังชาวบ้านจะไปกู้เงินจากธนาคารมาซื้อบ้านก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีหลักทรัพย์ รู้สึกดีใจที่จะมีที่อยู่เป็นของตัวเอง ให้ลุกหลานได้อยู่อาศัยต่อไป” นางจิตรลดากล่าว
โครงการบ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี (ท่าตำหนัก) ตั้งอยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษม (กม.42) ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม อยู่ห่างจากชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 30 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 48 ไร่ มีที่พักเป็นอาคารชุด ขนาด 5 ชั้น จำนวน 49 อาคาร รวม 2,201 หน่วย ยังเหลือห้องว่างสำหรับรองรับประชาชนทั่วไป รวมทั้งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกประมาณ 400 หน่วยเศษ
สำหรับโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีชาวบ้านที่ต้องรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 12 ชุมชน รวม 309 ครัวเรือน มีชาวบ้านย้ายเข้าอยู่อาศัยที่แฟลต ขส.ทบ.เขตดุสิตแล้ว 64 ครัวเรือน (รวมผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่) กำลังจะย้ายเข้าบ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี 23 ครัวเรือน ส่วนที่เหลือกำลังจัดซื้อที่ดินแปลงใหม่เพื่อปลูกสร้างบ้าน (บริเวณอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี) และมีชาวบ้านบางส่วนที่จะหาที่อยู่อาศัยเอง
รายงานโดย : งานสื่อสารองค์กร พอช.