playlists faocebook CODINew icon_tw Intranet mail
ภาษาไทย english หน้าหลัก
bangbuatemple1_resize.JPG

ชุมชนวัดบางบัว/  “สมคิด  สมศรี” ผอ.กองอำนวยการร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชมริมคลองฯ ร่วมงาน “ขยับพื้นที่เพื่อบ้านหลังใหม่เพิ่มพลังใจให้ชาวชุมชนวัดบางบัว"  โดยชาวบ้านเริ่มรื้อถอนบ้านเฟสแรกจำนวน  40 หลัง  เพื่อให้บริษัทรับเหมาสร้างเขื่อนระบายน้ำตอกเสาเข็มก่อน  หลังจากนั้นในเดือนมีนาคมจึงจะเริ่มสร้างบ้านเพื่อป้องกันผลกระทบจากการตอกเสาเข็ม  ใช้เวลาสร้างบ้านใหม่ 6 เดือน  ขณะที่ พอช.มอบงบสนับสนุนพัฒนาที่อยู่อาศัยเบื้องต้น  25 ล้านบาทเศษ  แนะชาวบ้านให้ดูชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญเป็นตัวอย่างการพัฒนาที่อยู่อาศัย  โดยมีหลายหน่วยงานร่วมสนับสนุน

 

bangbuatemple2_resize.JPG

เมื่อวันที่  15  มกราคม  2560   เวลา 15.00 น. ที่ชุมชนวัดบางบัว  ซอยพหลโยธิน 46  เขตจตุจักร  มีการจัดงาน "ขยับพื้นที่เพื่อบ้านหลังใหม่  เพิ่มพลังใจให้กับชาวชุมชนวัดบางบัว"   โดยมีนายสมคิด  สมศรี  อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ในฐานะผู้อำนวยการ  กองอำนวยการร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองและเจ้าพระยา (กอร.ชค.) และนายสมชาติ  ภาระสุวรรณ   รองผู้อำนวยการ  รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน   รวมทั้งตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เช่น   คสช.  ตำรวจ  กทม.  และชาวชุมชนริมคลองเข้าร่วมงานประมาณ 100 คน  ซึ่งการจัดงานในวันนี้นายสมคิดได้มอบงบประมาณสนับสนุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนวัดบางบัวเฟสแรก (จำนวน 40 หลัง) จาก พอช.ให้แก่ตัวแทนชุมชนเป็นเงินจำนวน 25,083,600  บาท
 

bangbuatemple3_resize.JPG

bangbuatemple4_resize.JPG

bangbuatemple5_resize.JPG

ชุมชนวัดบางบัวมีบ้านเรือนทั้งหมด 104  ครัวเรือน   มีพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่เศษ  สภาพบ้านเรือนแออัดและทรุดโทรม  ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินริมคลองลาดพร้าว  ซึ่งกรมธนารักษ์ดูแลอยู่  เริ่มรื้อย้ายบ้านตั้งแต่เมื่อวันที่ 14  มกราคมที่ผ่านมา  ตั้งเป้าหมายจะรื้อย้ายบ้านเฟสแรกจำนวน 40 หลังให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมนี้   เพื่อให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างเขื่อนเข้ามาตอกเสาเข็ม สร้างเขื่อนระบายน้ำในพื้นที่ริมคลองชุมชนวัดบางบัวช่วงแรก ระยะทางประมาณ100เมตร  (หากสร้างบ้านก่อนตอกเสาเข็มสร้างเขื่อนฯ อาจจะทำให้บ้านแตกร้าวได้)  หลังจากนั้นภายในเดือนมีนาคมนี้  จะเริ่มสร้างบ้านเฟสแรกทั้ง 40  หลัง  ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 เดือน   สำหรับแบบบ้านมี  2 แบบ  คือ ครอบครัวสิทธิ์หลัก  แบบบ้าน 2  ชั้น  ขนาด 3.7x7  ตารางเมตร   และครอบครัวสิทธิ์รอง (ครอบครัวขยายที่มีจำนวนสมาชิกในครัวมาก)  แบบบ้าน 3 ชั้น ขนาด 3.7x7 ตารางเมตร

 

bangbuatemple6_resize.JPG

นายมานะ  แซ่ด่าน   ประธานกลุ่มออมทรัพย์ชุมชนวัดบางบัว  กล่าวว่า   ชาวบ้านร่วมกันจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ฯ เมื่อเดือนเมษายน  2559    โดยในช่วงแรกมีชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ 30 ครอบครัว   หลังจากมีการจัดเวทีชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านในเดือนมิถุนายนแล้ว  ในเดือนต่อๆ มาสมาชิกจึงเพิ่มขึ้น  และต่อมาในเดือนธันวาคมจึงได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงคลองลาดพร้าวจตุจักร  จำกัด   เพื่อเช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์  จนถึงปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด  66 ครอบครัว       มีเงินออมรวมกันทั้งหมดประมาณ 1.1 ล้านบาท   โดยชาวบ้านมีความต้องการที่จะมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงให้แก่ครอบครัวและลูกหลาน  ขณะเดียวกันก็เป็นการทำตามนโยบายของรัฐบาล  เพื่อจะได้พัฒนาคลองให้มีความสะอาดและสวยงาม  รวมทั้งช่วยระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ด้วย
bangbuatemple7_resize.JPG

นายสมชาติ  ภาระสุวรรณ  รักษาการ ผอ.พอช.กล่าวว่า   ต่อไปชาวชุมชนวัดบางบัวจะมีพื้นที่อยู่อาศัยอย่างสุขสบาย  มีพื้นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย   จากเดิมที่มีสภาพเป็นชุมชนแออัด   และจะมีสถานที่ค้าขายในชุมชนด้วย  เพราะชุมชนอยู่ในย่านเศรษฐกิจ  ใกล้กับมหาวิทยาลัยศรีปทุมและหน่วยงานราชการหลายแห่ง  และตนอยากให้ชาวชุมชนได้ไปดูตัวอย่างที่ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ  ซึ่งขณะนี้กำลังจะก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ   มีบ้านใหม่ที่มั่นคงสวยงาน   โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยสนับสนุน  เช่น   บริษัท TOA  จะนำสีทาบ้านมามอบให้แก่ชาวบ้าน   ธนาคารอาคารสงเคราะห์จะนำถังบำบัดน้ำเสียมาสนับสนุนเพื่อบำบัดน้ำทิ้งในชุมชนก่อนปล่อยลงคลอง   นอกจากนี้ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญจะเป็นชุมชนริมคลองแห่งแรกที่พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีจะมาเปิดงานพัฒนาที่อยู่อาศัยและมอบบ้านจำนวน  64  หลังให้แก่ชาวชุมชนภายในเดือนมีนาคมนี้

"การพัฒนาชุมชนนั้น  ชาวบ้านจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา  ไม่ใช่ปล่อยให้คนใดคนหนึ่งทำ  สำหรับการรื้อบ้านของชุมชนวัดบางบัวในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น  แม้ว่าจะมีชาวชุมชนบางส่วนที่ยังไม่เข้าร่วม  แต่เพื่ออนาคตของลูกหลาน  ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงเข้าร่วมโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างชุมชนใหม่   ในฐานะตัวแทนของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  ผมจึงขอแสดงความยินดีกับชาวชุมชนวัดบางบัวในวันนี้"  นายสมชาติกล่าว

 

bangbuatemple8_resize.JPG

นายสมคิด  สมศรี  ผอ.กอร.ชค. กล่าวว่า  การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเป็นนโยบายของรัฐบาล  โดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ   โดยมีตนในฐานะ ผอ.กอร.ชค.เป็นผู้ประสานงาน   มีพอช.เป็นหน่วยงานหลักและทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน  เช่น   กระทรวง พม.  กทม.  กรมธนารักษ์  กรมส่งเสริมสหกรณ์  ตำรวจ  ทหาร  ฯลฯ  ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานที่อยู่อาศัยไม่สำเร็จเพราะมีการแบ่งกลุ่มแบ่งพวก  แต่รัฐบาลชุดนี้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน  เพื่อให้ชาวบ้านริมคลองมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง  มีคุณภาพชีวิต  และสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น  และถือว่าเป็นงานของประเทศ  ไม่ใช่เป็นผลงานของหน่วยงานใดเพียงหน่วยงานเดียว
"คนที่อยู่ในคลองทุกคนที่ได้รับผลกระทบจะได้รับสิทธ์   ได้อยู่บ้านมั่นคง  และจะไม่มีการสวมสิทธิ์อย่างเด็ดขาด  ซึ่งในวันนี้ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของชาวชุมชนวัดบางบัว   ผมจึงอยากให้พี่น้องมาเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ  ส่วนคนที่ยังไม่เข้าร่วมหน่วยงานอื่นก็จะมาดำเนินการต่อไป   และหากมาเข้าร่วมภายหลังก็อาจจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา   ส่วนคนที่เข้าร่วมโครงการในวันนี้   อีกไม่เกิน 8 เดือนก็จะได้เข้าอยู่บ้านใหม่อย่างที่ท่านต้องการ   มีสภาพแวดล้อมที่ดีและมีอนาคตให้ลุกหลาน   นอกจากนี้ชาวบ้านก็จะมีรายได้จากการเปิดพื้นที่ริมคลองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไปในอนาคตด้วย"  นายสมคิดกล่าว

bangbuatemple9_resize.JPG

bangbuatemple10_resize.JPG

ชุมชนวัดบางบัวอยู่ในเขตจตุจักร  ตั้งอยู่ริมคลองลาดพร้าว   ตรงข้ามวัดบางบัว  ส่วนพื้นที่ด้านหน้าอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยศรีปทุม  และมีหน่วยงานราชการหลายแห่งตั้งอยู่ใกล้เคียง  เช่น  กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์  กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก  ฯลฯ  ชุมชนมีพื้นที่ทั้งหมด  3 ไร่เศษ  จำนวน  104  ครัวเรือน (สร้างบ้านอยู่บนบก  61 หลัง  อยู่ในน้ำ  43 หลัง) เข้าร่วมโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย 66 ครัวเรือน   ยังไม่เข้าร่วม 38 ครัวเรือน  เริ่มมีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย ตั้งแต่เดือนเมษายน 2559  ได้รับสัญญาเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์เมื่อเดือนธันวาคม  2559  อัตราค่ าเช่าตารางวาละ 2.25 บาทต่อเดือน  ระยะเวลาในการเช่า 30 ปี   แบ่งแปลงที่ดินได้จำนวน  96 แปลง  ขนาดเนื้อที่ต่อแปลง 10.5  ตารางวา

ทั้งนี้พอช. ได้อนุมัติงบสาธารณูปโภค  รวม 3,300,000  บาท  งบอุดหนุนช่วยเหลือ  รวม 6,402,000 บาท   สินเชื่อ  รวม  15,381,600  บาท   รวมงบประมาณทั้งหมดจำนวน  25,083,600  บาท

                                                               



รายงานโดย งานสื่อสารองค์กร พอช.

แบ่งปัน
Submit to FacebookSubmit to Google PlusSubmit to Twitter