ชุมชนสามัคคีร่วมใจ / ผอ.เขตบางเขนและภาคคีเครือข่ายร่วมงาน “เปิดพื้นที่ ลงขัน-ร่วมแรง-สร้าง-แปง-คน คู คลอง” ที่ชุมชนสามัคคีร่วมใจ ริมคลองลาดพร้าว รื้อย้ายเพื่อสร้างบ้านใหม่อีก 34 หลัง จากเดิมที่สร้างเสร็จแล้ว 95 หลัง คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ด้าน พอช.สนับสนุนงบประมาณรวม 11 ล้านบาทเศษ
วันที่ 17 มกราคม เวลา 15.00 น. ที่ชุมชนสามัคคีร่วมใจ ริมคลองลาดพร้าว (คลองบางบัว) เขตบางเขน มีการจัดงานพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง “เปิดพื้นที่ “ลงขัน-ร่วมแรง-สร้าง-แปง-คน คู คลอง” โดยมีนายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการเขตบางเขน พันโทศรัทธา นิลกำแหง ผบ.กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ผู้แทนผู้กำกับ สน.บางเขน นายสมชาติ ภาระสุวรรณ รองผู้อำนวยการ รักษาการตำแหน่ง ผอ.พอช. ตัวแทนสำนักงานที่ดินเขตบางเขน การไฟฟ้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชาวบ้านเครือข่ายพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมคูคลองเข้าร่วมงานประมาณ 100 คน ซึ่งการจัดงานในวันนี้มีการรื้อบ้านเพื่อเตรียมก่อสร้างบ้านใหม่จำนวน 34 หลัง โดยมีชาวบ้านและสมาชิกเครือข่ายพัฒนาชุมชนฯ รวมทั้ง ผอ.เขตบางเขนและรักษาการ ผอ.พอช.ร่วมกันลงแรงรื้อบ้านด้วย
นางภาวินี กองแก้ว ประธานชุมชนสามัคคีร่วมใจ กล่าวว่า เดิมชาวชุมชนปลูกสร้างบ้านอยู่กลางคลองกันมานานหลายสิบปี จนถึงปี 2538 บ้านเรือนเริ่มหนาแน่นขึ้น เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียและขยะในคลอง ต่อมาในปี 2541 ชาวชุมชนริมคลองบางบัวหลายชุมชนจึงได้รวมกลุ่มกันเป็น “เครือข่ายพัฒนาสิ่งแวดล้อมคลองบางบัว” ทำกิจกรรมรักษาคลอง เช่น เก็บขยะในคลองแล้วนำมาทำโครงการ “ทอดผ้าป่าขยะ” เอาขยะรีไซเคิลขายนำรายได้เข้ากองทุนฯ ทำน้ำหมักชีวภาพเทลงคลองเพื่อฟื้นฟูคลอง ฯลฯ หลังจากนั้นในปี 2547 เมื่อทาง พอช.มีโครงการบ้านมั่นคง ชุมชนสามัคคีร่วมใจจึงได้เข้าร่วมโครงการ โดยการรื้อบ้านออกจากลำคลองเพื่อปรับผังชุมชนใหม่ มีชาวบ้านเข้าร่วมโครงการในช่วงแรก 95 หลังคาเรือน จากทั้งหมด 130 หลัง สร้างบ้านเสร็จไปแล้วตั้งแต่ปี 2552 ส่วนที่เหลือ 34 หลัง (อีก 1 หลังไม่เข้าร่วม) จะเริ่มรื้อย้ายเพื่อสร้างบ้านใหม่ในวันนี้
“วันนี้พวกเราร่วมกันจัดงานลงขัน ลงแรง สร้างแปง คูคลอง โดยรื้อบ้านใหม่อีก 34 หลัง จะรื้อให้เสร็จภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ หลังจากนั้นก็จะเริ่มสร้างบ้านใหม่ คาดว่าจะสร้างบ้านให้เสร็จทั้งหมดในช่วงกลางปีนี้ หรือประมาณเดือนกรกฎาคม หลังจากสร้างบ้านเสร็จแล้วชาวบ้านก็อยากจะให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยสนับสนุนเรื่องการพัฒนาอาชีพ เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ มีเงินที่จะนำมาผ่อนค่าก่อสร้างบ้านต่อไป” ประธานชุมชนฯ กล่าว
พันโทศรัทธา นิลกำแหง ผบ.กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจัดระเบียบชุมชนริมคูคลองเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อเป็นการระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ นั้น ในฐานะทหารซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่จึงมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และพร้อมที่จะให้การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น การรื้อและขนย้ายวัสดุ รวมทั้งการชี้แจงและสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนเพื่อให้เข้าใจนโยบายของรัฐบาล
นายสมชาติ ภาระสุวรรณ รักษาการ ผอ.พอช. กล่าวว่า โครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน หากประชาชนไม่เข้าร่วมก็จะสำเร็จยาก เหมือนตัวอย่างที่ศาลเจ้าพ่อสมบุญ ซึ่งแต่เดิมมีสภาพแออัด ทรุดโทรม ไม่น่าอยู่อาศัย แต่เมื่อประชาชนร่วมใจกันพัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่ก็จะเกิดความสำเร็จ ทำให้ชาวบ้านมีบ้านใหม่ที่มั่นคง มีสภาพแวดล้อมที่ดี รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งที่ชุมชนร่วมสามัคคีถือเป็นต้นแบบที่ดีที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยร่วมกันของคนทั้งชุมชน จึงขอแสดงความยินดีกับชาวชุมชนร่วมสามัคคีในวันนี้ที่ได้ร่วมกันจัดงานในวันนี้ขึ้นมา
นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการเขตบางเขน กล่าวแสดงความยินดีกับชาวชุมชนว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการชุมชนที่ได้ร่วมกันพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขึ้นมา เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ปรับเปลี่ยนคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชนอื่นๆ ในเขตบางเขนที่จะพัฒนาชุมชนต่อไป และขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนร่วมสามัคคีในครั้งนี้
ชุมชนสามัคคีร่วมใจตั้งอยู่ริมคลองลาดพร้าว (คลองบางบัว) เขตบางเขน ชาวบ้านรุ่นแรกเข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่ราวปี 2470 มีอาชีพทำนา เผาถ่าน และทำอิฐมอญ ปัจจุบันมีบ้านเรือนทั้งหมด 130 หลัง ประชากรทั้งหมดประมาณ 700 คนเศษ เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงกับ พอช.ตั้งแต่ปี 2547 โดยมีครัวเรือนที่เข้าร่วมจำนวน 95 หลัง และได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์ในนามสหกรณ์เคหสถานเพื่อที่อยู่อาศัยคลองบางบัว จำกัด ระยะเวลา 30 ปี เมื่อเดือนมีนาคม 2552 ขนาดที่ดิน 4 ไร่ 1 งาน 93 ตารางวา อัตราตารางวาละ 2.59 บาทต่อเดือน
ส่วนการพัฒนาที่อยู่อาศัยของชุมชนสามัคคีร่วมใจในขณะนี้เป็นการดำเนินงานในส่วนที่เหลือ จำนวน 34 ครัวเรือน แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 4X7 ตารางเมตร ราคา 365,828 บาท จำนวน 24 หลัง และบ้านแฝด 2 ชั้น ขนาด 4 X7 ตารางเมตร ราคา 334,076 บาท จำนวน 10 หลัง โดยชาวบ้านมีเงินออมรวมกันทั้งหมดประมาณ 870,000 บาท ได้รับการสนับสนุนจาก พอช.ด้านงบอุดหนุนที่อยู่อาศัย (รวม 34 หลัง) รวม 850,000 บาท และงบสินเชื่อที่อยู่อาศัย (หลังละ 300,000 บาท) รวม 10,200,000 บาท รวมงบสนับสนุนทั้งหมด 11,050,000 บาท ตามแผนงานจะก่อสร้างบ้านให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2560 นี้
รายงานโดย งานสื่อสารองค์กร พอช.