playlists faocebook CODINew icon_tw Intranet mail
ภาษาไทย english หน้าหลัก
CR270259.03         

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ณ โรงแรมศิลามณี รีสอร์ทแอนด์สปา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย   กับเวทีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ : อนาคตจังหวัดเชียงราย จัดโดย สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง โดยมีนายทวี สุทธิถนอม หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงรายเป็นประธานกล่าวเปิดงาน มีผู้เข้าร่วมที่มาจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ผู้แทนเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบล ผู้แทนกองทุนสวัสดิการชุมชน ผู้แทนท้องที่ ผู้แทนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และสถาบันการศึกษา เข้าร่วมกว่า ๑๐๐ คน


          นายพัฒนา   สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงราย ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทยโดยมีศักยภาพทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้าชายแดน การลงทุนและการบริหารโลจิสติกส์ จังหวัดเชียงรายจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์และบทบาทการพัฒนาเป็นประตูการค้าและศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดดเด่นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพประชาชนอยู่ดีมีสุข

โดยพื้นที่อำเภอแม่สาย จะเน้นเรื่องการพัฒนาเป็นศูนย์การค้าและการเงิน โดยมีศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า ศูนย์ข้อมูลการค้าการลงทุน ศูนย์กลางบริการทางการเงิน และศูนย์กลางการค้าสินค้าเกษตร      พื้นที่อำเภอเชียงแสน เน้นเรื่องศูนย์ท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและท่าเทียบเรือนานาชาติ ประกอบด้วย ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว ศูนย์แสดงสินค้าและวัฒนธรรม ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวและสินค้า ศูนย์บริการสุขภาพและศูนย์การแพทย์ และศูนย์การศึกษานานาชาติ   ส่วนพื้นที่อำเภอเชียงของ เน้นเรื่องอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและการแปรรูปสินค้าเกษตร ประกอบด้วย ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า ศูนย์ขนส่งมวลชน การแปรรูปสินค้าเกษตร ศูนย์โลจิสติกส์และการขนส่ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

โอกาสทางธุรกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พอสรุปออกเป็น ๔ ด้วน ได้แก่ ๑)ด้านการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เป็นการเชื่อมโยงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว  2)ด้านบริการโลจิสติกส์ เป็นการพัฒนาศักยภาพและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า การสนับสนุนกิจการโลจิสติกส์   3)ด้านการค้าชายแดน เป็นการยกระดับมาตรฐานการค้าชายแดน การสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจและผู้ผลิตในท้องถิ่น การสนับสนุนการลงทุน และ 4)ด้านอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและธุรกิจเกษตรครบวงจร การเชื่อมโยงกับตลาดในต่างประเทศและอนุภูมิภาค ความพร้อมของแหล่งวัตถุดิบจากภาคการเกษตร การพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตของภาคการผลิต และการสนับสนุนการลงทุน

การยกระดับคุณภาพชีวิต แบ่งออกเป็น 5 แนวทาง ประกอบด้วย 1) ด้านการสร้างงานและยกระดับรายได้ โดยการเพิ่มจำนวนการจ้างงาน การยกระดับรายได้ การลดความเสี่ยงของเศรษฐกิจระดับครัวเรือน การเพิ่มโอกาสการทำงานในพื้นที่ลดการย้ายถิ่น 2) ด้านการป้องกันด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการควบคุม และแก้ไขผลกระทบจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การป้องกันปัญหายาเสพติดและการลักลอบข้ามแดน การควบคุมและจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว 3) ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และวางผังเมือง โดยการกระจายความเจริญโดยใช้กลไกการพัฒนาที่ดินของรัฐ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง การวางผังเมืองที่เอื้อต่อการพัฒนาที่สมดุล 4) ศูนย์กลางด้านการศึกษา ได้มีแนวทางการพัฒนามหาวิทยาลัยระดับนานาชาติ ศูนย์กลางการพัฒนาฝีมือแรงงานและวิชาชีพขั้นสูง ศูนย์การอบรมและสัมมนา รวมถึงพิพิธภัณฑ์และแหล่งการเรียนรู้ 5) ศูนย์กลางด้านการบริหารทางการแพทย์ เกี่ยวกับศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ การพัฒนาด้านการบริการสาธารณสุขและธุรกิจโรงพยาบาล

          ทั้งนี้ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับข้อพึงระวังจากการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยนายนาวิน โสภาภูมิ นักวิชาการอิสระ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา วัตถุประสงค์ แนวทาง กลยุทธ์การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศไทย โดยมี 13 กลุ่มกิจการเป้าหมายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และมีการผ่อนปรนเงื่อนไข SMEs ไทยและสิทธิประโยชน์โดยเฉพาะมาตราด้านภาษีอากร การจัดหาที่ดินและการบริหารจัดการด้านแรงงาน ด้านการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งสถานการณ์การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจนถึงปัจจุบัน พบว่า รัฐบาล คสช. แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ(กพน.)เป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปี 2557 กนพ. ได้ประกาศพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด ปี 2558 ช่วงปี 2558-2559 มีการดำเนินรวบรวมที่ดินในพื้นที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีการใช้ ม.44 เพื่อการรวบรวมที่ดิน และยกเลิกผังเมืองรวม และเปิดให้มีการลงมทุนอุตสาหกรรมหรือโรงงาน โรงไฟฟ้าในพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ ดังนั้นการเตรียมใช้ ม.44 รวบรวมที่ดินเพิ่มเติม ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 2,052 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลสถาน อำเภอเชียงของ และตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน การใช้ ม.44 ยกเลิกผังเมืองรวม

ผู้เข้าร่วมเวทีได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ว่ามีการขนส่ง การคมนาคมดีขึ้น มีความเจริญจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็มีการกว้านซื้อที่ดินทุกพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย ทำให้ที่ดินแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ดินหลุดมือเนื่องจากปัญหาหนี้สิน มีปัญหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนเนื่องจากรถจีนเข้ามามากขึ้น การแย่งชิงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาแรงงานข้ามชาติ ปัญหาเรื่องการรับรู้เข้าถึงข้อมูลที่ล่าช้า ไม่ทั่วถึง ปัญหาด้านเศรษฐกิจที่คนเชียงรายไม่ได้ประโยชน์โดยต่างชาติเข้ามาดำเนินกิจการ เช่น ร้านอาหาร ปัญหาภาคประชาชนขาดการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนา          จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีข้อกังวล เกี่ยวกับปัญหาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติระหว่างชุมชนกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจชุมชนและวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ    ปัญหาการจ้างงานและการกระจายรายได้ ความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ปัญหาการขูดรีดแรงงานข้ามชาติ(ต่างด้าว) นอกจากนี้ปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัด รวมถึงการบริหารจัดการการกำหนดทิศทางการพัฒนาที่มาจาก “บนลงล่าง” และ การใช้ มาตรา 44 ทำให้เกิดปัญหาด้านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและหน่วยงานระดับท้องถิ่น ปัญหาด้านการจัดหาที่ดินจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัญหาด้านการละเลยการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม   ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่กับหน่วยงานรัฐปัญหาการยกเลิกผังเมืองรวม ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นร่วมกันว่า ยังขาดการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะประเด็นการรับรู้ เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ในระดับหมู่บ้านและตำบล โดยไม่คำนึงถึงสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนในการพัฒนาและการดำรงชีวิต ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ไม่คำนึงถึงทุนธรรมชาติ ทุนทางสังคมและทุนมนุษย์ในพื้นที่

ข้อเสนอของที่ประชุม จึงเสนอให้มีการจัดเวทีสาธารณะเพื่อวิเคราะห์ผลดี ผลเสีย และผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรมีการจัดตั้งกลไกแบบมีส่วนร่วมทุกระดับที่มีอัตราส่วนจากตัวแทนภาคประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือตัวแทนที่มาจากสภาองค์กรชุมชนตำบล   ให้ทบทวนคำสั่งการใช้ผังเมืองรวม ผังเมืองท้องถิ่น ผังเมืองเฉพาะ ต้องมีมาตรการชดเชยเยียวยาที่รวดเร็วที่เป็นธรรมในการสูญเสียที่ดิน อาชีพ และรายได้ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบและสูญเสียโอกาส บริหารจัดการปัญหาขยะ มลพิษ อาชญากรรม สุขภาพอย่างเป็นระบบ มีมาตรการในการบริการสาธารณะสุขระหว่างคนพื้นที่กับแรงงานข้ามชาติ รวมถึงควรมีการถอดบทเรียนจากประเทศอื่นๆ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ

จากการจัดเวทีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ : อนาคตจังหวัดเชียงราย ดังกล่าวคงเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล ถกแถลงเกี่ยวกับปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมข้อเสนอต่างๆ ที่มาจากตัวแทนชุมชนท้องถิ่น อนาคตจังหวัดเชียงรายจะเป็นอย่างไร การสร้างสมดุลการพัฒนาเมืองที่มีคุณภาพที่ดีจะเป็นแบบไหน คนเชียงรายจะสามารถกำหนดอนาคตไว้ให้ลูกหลานได้หรือไม่ คงต้องติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงรายต่อไป

cr200258.02


CR270259.01

รายงานโดย : วิไล นาไพวรรณ์ ผู้สื่อข่าวชุมชนจังหวัดเชียงราย


แบ่งปัน
Submit to FacebookSubmit to Google PlusSubmit to Twitter